วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2558

5 วิธีลดน้ำหนักสำหรับเบื้องต้น

สำหรับมือใหม่แล้วก็ การลดน้ำหนักด้วยเทคนิคต่างๆนานา อาจเป็นเรื่องยุ่งยาก โหดร้าย ทำลายความรู้สึก เพราะยังคงติดการใช้ชีวิตแบบเดิมๆอยู่ ทาง Balance จึงได้รวบรวมเทคนิคขั้นพื้นฐานของการลดน้ำหนักสำหรับผู้เริ่มต้นลดน้ำหนักมาให้ใช้กันค่ะ
เมื่อรู้แล้วว่าอ้วน เสื้อผ้าคับ เดินไม่สบาย หอบง่าย หายใจไม่ทั่วท้อง หน้าบาน แก้มห้อย เพื่อนแซว แฟนทิ้ง แม่บ่น ต่างๆนานาที่เป็นสัญญาณเตือนว่าเราอ้วนจนเกินจะเยียวยา เพราะสุขภาพเริ่มแย่ทำอะไรๆก็ไม่สะดวก ก่อนจะเริ่มวิธีการต่างๆนั้นเราควรเริ่มที่การตั้งใจมุ่งมั่นอย่างจริงจังเสียก่อน ทำความเข้าใจก่อนว่าการจะลดนั้นต้องอาศัยเวลา ความเข้าใจ ไม่ใช่แค่ความอดทนเพียงอย่างเดียว เมื่อมุ่งมั่นแล้วจงทำให้สุดความสามารถแล้วเริ่มปฏิบัติดังนี้

1. คำนวน ชั่งน้ำหนัก วัดสัดส่วน และ จดบันทึก

ก่อนอื่นเราเราต้องรู้ตัวก่อนว่าเราอ้วนแค่ไหน โดยการชั่งน้ำหนัก หรือ วัดรอบเอว ขนาดรอบเอว(ระดับสะดือ)โดยค่าจะต้องไม่เกิน ส่วนสูงของเรา หารด้วย 2 ถ้าเกินนั้นหมายถึงคุณอ้วนลงพุงแล้ว หรือจะดูจากว่าเราเป็นเพศอะไร มีกิจกรรมการทำงานอย่างไร ต้องใช้พลังงานต่อวันเท่าไหร่ โดยมากค่าเฉลี่ยของชายจะใช้พลังงานอยู่ที่ไม่เกิน 2000 kcal ต่อวัน และผู้หญิงจะใช้ไม่เกิน 1600kcal ต่อวัน และผู้ใช้แรงงานอยู่ที่ 2400 kcal ต่อวัน หรือวัดสัดส่วนของร่างกายที่ตำแหน่ง รอบอก รอบเอว รอบสะโพก รอบต้นแขน และ รอบต้นขา จดบันทึก รายละเอียดต่างๆตอนเริ่มต้นไว้

2. ตัดอาหารที่ไม่จำเป็นกับเราเสียก่อน

อาหารที่จำเป็นกับเราคืออาหารหลักที่จำเป็นต่อการดำรงค์ชีวิต สมัยโบราณแต่เก่าก่อน เราทานข้าวทานอาหารกันเป็นมื้อๆ ไม่มีของว่างจุบจิบระหว่างมื้อ แต่ในปัจจุบันคนมักทานเพื่อความบันเทิงกันมาก มากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการจึงทำให้คนมีภาวะโรคอ้วนเฉลี่ยสูงขึ้นทุกๆปี จึงแนะนำให้ตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกเสียก่อน เช่น ของว่างระหว่างวัน เครื่องดื่ม ของขบเคี้ยวจุบจิบ ของหวานล้างปาก ของกินฆ่าเวลา เพราะความจริงแล้วเมื่อเราตัดหรือลดมื้อย่อยๆเหล่านี้ได้ เราอาจสามารถลดพลังงานที่เหลือใช้ลงได้ถึงวันนึงอย่างน้อย 400 – 500 kcal เลยทีเดียว

3. หลีกเลี่ยง ของทอด ของหวาน ของมัน ของเค็ม

เมื่อเราตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกได้ซักระยะนึงจนรู้สึกมั่นใจกับการลดน้ำหนักได้แล้ว จึงเริ่มสังเกตุและปรับแก้ที่อาหารหลัก ตรวจเช็คอาหารหลักของเราว่าปรุงด้วยวิธีใด พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่ปรุงด้วยการทอด ผัดน้ำมันเยอะ หรืออาหารอบที่ใช้ นม เนย สูงๆ หันมารับประทานอาหารที่ปรุงด้วยการ ต้ม นึ่ง เผา ย่าง และตรวจเช็คว่า สิ่งเราทานนั้นมีรสจัดเกินไปหรือไม่ เพราะอาหารรสจัด ก็มีผลกับน้ำหนักตัวเช่นกัน โดย ลดปริมาณความหวานจากน้ำตาล และ ความเค็มจากซอสต่างๆลง

4. ออกแรง ออกกำลังกาย ขยับตัวให้มาก

อย่าเข้าใจผิดว่าการออกกำลังกายนั้นจำเป็นจะต้องไปออกที่สนาม ออกไปวิ่ง ไปฟิตเนสเพียงอย่างเดียว แต่การออกกำลังกายนั้นสามารถทำได้ ทุกที่ทุกเวลา เพียงเราใช้การขยับตัวให้มากขึ้น เดินไปไหนมาไหน ทำกิจกรรมต่าง แทนการนั่ง-นอนเฉยๆอยู่กับบ้าน ทุกๆกิจกรรมก็สามารถช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานได้หมด (วิธีการออกกำลังกายเพื่อนการลดน้ำหนัก) สำหรับคนที่จะจริงจังด้านการออกกำลังกายควรเริ่มทำทีละน้อยตามสภาพร่างกาย อย่าหักโหม ค่อยเป็นค่อยไป โดยคิดถึงหลักการคล่าวๆคือ ถ้าออกแรงน้อยให้ใช้เวลานานหน่อย แต่ถ้าออกแรงมากก็ ขอเป็น 40 นาที นาทีที่ 41 เป็นต้นไปถือเป็นกำไร  ทำไมต้อง 40 นาที

5. เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์

เมื่อลดของที่ไม่จำเป็น ลดแหล่งความอ้วนได้แล้ว เราควรเพิ่มของที่ประโยชน์แก่ร่างกายเข้ามาแทน ทานผัก ทานผลไม้ เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ นม ข้าวแป้งไม่ขัดสีให้มากขึ้น เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นขุมพลังงานสะอาดและสารอาหารที่มีประโยชน์ ที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทานเท่าไหร่ถึงพอดี อย่าอดหรือข้ามมื้อ หรือตัดสิ่งใดสิ่งนึงไปเลย แต่ควรเลือกทานในปริมาณที่เหมาะสมจะดีกว่า เพื่อลดอาการเครียด ถ้าอยากก็จงทานอย่างมีสติแล้วกลับมาควบคุมตามแผนอย่างเดิม เพราะการทานมื้อใหญ่เพียงมื้อเดียวไม่ได้ทำให้อ้วนขึ้นอย่างแน่นอน

เมื่อทำตามที่กล่าวไปแล้วน้ำหนักจะลดลงอย่างช้าๆ เพราะนั้นคือการปรับสมดุลให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดี อย่าคาดหวังตัวเลขบนตราชั่งมากนัก ระหว่างทางอาจมีบ้างที่น้ำหนักจะนิ่ง แต่อย่ากังวล ให้เราใช้การวัดสัดส่วน สำรวจรูปร่างตัวเอง จากเสื้อผ้าจากคนรอบข้าง เพราะสิ่งที่เรากำลังทำต้องใช้เวลา เรากำลังเปลี่ยนแปลงพฤิกรรม ต้องค่อยเป็นค่อยไป อย่าเปรียบเทียบกะใคร เราแข่งกับตัวเอง เพื่อให้ใด้สุขภาพที่ดี ขอให้ทำอย่างต่อเนื่อง หรือกลับมาทบทวนว่าเราขาดหรือหลุดในจุดไหนไปก็ปรับแก้ไป และผลสำเร็จที่ได้มานั้นไม่ได้อยู่ที่ตัวเลขบนตราชั่งเท่านั้น แต่มันจะเห็นผลชัดเจนที่เรามีสุขภาพที่ดีขึ้น แข็งแรงขึ้น ฟิตขึ้น และมีรูปร่างที่ดีเป็นของแถม 
แต่ถ้าได้ลองทำทั้งหมดนี้แล้วยังไม่เห็นผล Balance ขอเป็นคำตอบให้กับคุณ เพราะ BALANCE เป็นแบรนด์แรกในเมืองไทย ที่ใช้นวัตกรรมนำเข้าจาก Switzerland เป็นนวัตกรรมใหม่แห่งการลดน้ำหนักที่ไม่โยโย่ โดยมีอาหารเสริม 2 ตัวทำงานคู่กัน BALANCE D จะทำหน้าที่ล้างสารพิษในร่างกายให้สะอาด แล้วลำไส้จะเกิดการดูดซึมได้ดี ทำให้เห็นผลได้ไวมากยิ่งขึ้น แถมยังช่วยทำให้นอนหลับสบาย        BALANCE S  จะเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักได้อย่างดี เพียงแค่ถ้ารับประทานอย่างต่อเนื่อง ภายใน1 สัปดาห์ สามารถ ลดน้ำหนักได้มากถึง 3-7 กิโลกรัมเลยทีเดียว
สนใจสั่งซื้อสินค้าหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก>> ที่นี่ <<ได้เลย


กินอาหารตามกรุ๊ปเลือด

กินอาหารตามกรุ๊ปเลือด ทำตามแล้วเห็นผลสุดๆ


เพราะคนเรามีกรุ๊ปเลือดทีต่างกัน และหากเรารับประทานอาหารให้ตรงตามแต่ละกรุ๊ปเลือด ก็เท่ากับ
-  การลดน้าหนัก
 -  เพิ่มพละกำลัง
 -  ทำให้ไม่แก่เร็ว
 -  การเสริมสร้างความสมดุลที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ให้แก่
     ภูมิต้านทานของเรา, ระบบย่อย



กรุ๊ป O มักจะมีกรดในกระเพาะอาหารสูงกว่าเลือดกรุ๊ปอื่นๆ จึงทำให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหารได้ง่ายกว่าปกติ ยิ่งถ้ารับประทานอาหารไม่ตรงเวลาหรืออดข้าว อาจทำให้เกิดโรคกระเพาะและเป็นแผลในกระเพาะอาหาร

การทานอาหารที่เหมาะสม
กรุ๊ป O สามารถย่อยอาหารประเภทเนื้อสัตว์ได้ดีกว่ากรุ๊ปอื่นๆ จึงเหมาะกับการรับประทานเนื้อสัตว์ ทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อแกะ รวมถึงเครื่องในอย่างตับและหัวใจ ส่วนอาหารประเภทผักที่เหมาะคือ บล็อกโคลี่ คะน้า หัวหอม กระเทียม ฟักทอง และมะเขือ ผลไม้ที่ไม่ควรพลาดคือกล้วย บลูเบอร์รี่ เชอร์รี่ มะม่วง และลูกพรุน


อาหารควรหลีกเลี่ยง 
คือมันฝรั่ง ข้าวโพด ไม่ควรรับประทานอาหารจำพวกนมและไข่ เพราะจะทำให้ระบบการย่อยอาหารมีปัญหา นอกจากนี้ยังไม่เหมาะกับการรับประทานข้าวสาลี ขนมปัง พืชตระกูลถั่ว กะหล่ำปลี เห็ด และผักกาดขาว

ควรออกกำลังกายแบบไหนดี

สำหรับสาวกรุ๊ป O จำเป็นต้องออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของกระเพาะอาหาร โดยลองว่ายน้ำ 30-45 นาที สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง หรือจ็อกกิ้ง และเต้นแอโรบิค ครั้งละ 30 นาที สัปดาห์ละ 3 ครั้ง 


คำแนะนำ
- ควรเคี้ยวอาหารช้าๆ เพราะหากเคี้ยวอาหารไม่ละเอียดอาจทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนัก
   มากเกินไป
- ไม่ควรอดอาหาร ควรรับประทานอาหารให้ครบทุกมื้อ ป้องกันการเป็นโรคกระเพาะอาหาร
- สาวกรุ๊ป O ควรออกกำลังกายจำพวกแอโรบิคอย่างน้อย 4 ครั้งต่อสัปดาห์
-  สาวกรุ๊ป O มักเครียดง่าย เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้ตัวเองต้องเครียด



กรุ๊ปเลือด A : จัดเป็นพวกมังสวิรัติ (Vegetarian Diet)

คนกรุ๊ปเลือดเอมีน้าย่อยในกระเพาะอาหารมีความเป็นกรดต่ำ ทำให้ไม่เหมาะกับอาหารประเภทเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเนื้อแดง เพราะจะย่อยได้ยาก และเป็นเหตุให้เกิดสารท็อกซินขึ้นในร่างกาย ควรหันมารับประทานเนื้อสัตว์ประเภทเนื้อปลาและเนื้อไก่แทน แต่ควรเลี่ยงปลาเนื้อขาว เช่น ปลาตาเดียวและประจาระเม็ดเพราะมี เลคตินที่รบกวนระบบย่อยของกรุ๊ป A

ที่น่าจะระวังเป็นพิเศษ คือ อาหารสำเร็จรูปประเภทไส้กรอกหรือแฮมเพราะมีสารประกอบไนเตรทอยู่มาก สามารถกระตุ้นการเกิดมะเร็งในกระเพาะอาหารซึ่งมีกรดในกระเพาะอาหารต่ำ รวมทั้งเพิ่มการรับประทาน วิตามินซี ซึ่งมีส่วนช่วยในการทำงานที่ดีของระบบภูมิคุ้มกันและยังช่วยลดปัญหาเรื่องของกรดในกระเพาะอาหารต่ำอีกด้วย

อาหารที่ควรรับประทาน

ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ถั่วลิสงจะดีมาก เพราะมีเลคตินที่ต่อต้านมะเร็ง

ผักผลไม้ที่ดี ได้แก่ หอมใหญ่และบร๊อคโคลี่ มีสารแอนตี้อ็อกซิเด้นท์สูง แครอท ฟักทอง ผักโขมและกระเทียม ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน สับปะรด ส้มโอและมะนาวมีกรดที่ช่วยย่อยและเพิ่มการทำงานของ ลำไส้เล็ก

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง

อาหารประเภทเนื้อสัตว์ เพราะจะทำให้ย่อยยากและเกิดการสะสมของไขมัน อาจทำให้เป็นโรคหัวใจและมะเร็ง ควรหันมารับประทานเนื้อไก่และเนื้อปลาแทน

ผลิตภัณฑ์นมวัว และเนย ซึ่งจะชะลอระบบเผาผลาญอาหารและเกิดเสมหะเพิ่มขึ้น

อาหารประเภทดองและอาหารสำเร็จรูป เช่น ไส้กรอกและแฮม เพราะมีไนไตรท์ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นการเกิดมะเร็งในกระเพาะอาหารได้ง่ายสำหรับคนกรุ๊ปเลือดเอที่มีกรดในกระเพาะอาหารต่ำ

ผักผลไม้ ได้แก่ มะเขือเทศ ส้ม แตงโม แคนตาลูป เพราะจะทำให้ย่อยยาก

เครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมและเบียร์

กรุ๊ป B จะเป็นคนที่อ้วนง่ายแต่ก็ผอมง่าย และยังมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานได้มากกว่าคนเลือดกรุ๊ปอื่น กรุ๊ป Bเป็นกรุ๊ปที่มีระบบย่อยอาหารดี มักไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องท้องอืดท้องเฟ้อ เพราะเป็นกรุ๊ปที่มีฮอร์โมนคอร์ติซอลมากอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นสาวกรุ๊ป  B ต้องระมัดระวังเรื่องความเครียด เพราะความเครียดจะทำให้สุขภาพของสาวกรุ๊ป B ย่ำแย่ลง

การทานอาหารที่เหมาะสม
กรุ๊ป B เหมาะกับการรับประทานอาหารจำพวกนมและไข่มากที่สุด โดยเฉพาะโยเกิร์ต นม และชีส ส่วนอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เหมาะกับเนื้อแกะและอาหารทะเล อย่างหอยเชลล์ ปลาทู ปลากระพงแดง ปลาทูน่า และปลาแซลม่อน

อาหารที่ควรรับประทาน

อาหารจำพวกนมเนยไข่ ให้ประโยชน์อย่างมากต่อกรุ๊ปเลือดบี

เนื้อแกะ ไก่งวงและกระต่าย และปลาน้ำลึก เช่น ปลาหิมะ ปลาจาระเม็ด

ผัก ผลไม้ให้ผลดีเกือบทุกชนิด ควรรับประทานมากผักมากๆ เพื่อป้องกันโรคที่มาจากเชื้อไวรัสและภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นง่ายในคนกรุ๊ปเลือดบี
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง

เนื้อหมู และเนื้อไก่ ซึ่งจะรบกวนระบบเลือดที่อาจจะนำไปสู่อาการทางสมองและโรคข้อเสื่อม

ถั่วต่างๆ ไม่ดีต่อคนกรุ๊ปเลือดบี โดยเฉพาะถั่วลิสงและงา ซึ่งจะรบกวนระบบอินซูลิน ที่จะทำให้เกิดการลดน้ำตาลในเลือดเฉียบพลัน

อาหารทุกชนิดที่ทำจากแป้งสาลี ข้าวโพด ซึ่งมีผลต่อระบบเผาผลาญอาหารและจะทำให้น้ำหนักเพิ่ม ควรรับประทานข้าวเจ้าและเบเกอรี่ที่ทำจากแป้งสเปลท์แทน

ผัก ผลไม้ ที่ต้องหลีกเลี่ยงอย่างเคร่งครัด ได้แก่ มะเขือเทศ ข้าวโพด มีมีผลต่อกระเพาะอาหารและระบบการย่อยอาหารและการลดน้ำตาลในเลือดเฉียบพลัน


คนกรุ๊ปเลือด ABจัดเป็นพวกลูกผสมของกรุ๊ปเอและบี


คนกรุ๊ปเลือดเอบีนั้น มีลักษณะการรับประทานอาหารให้เหมาะสมค่อนข้างซับซ้อน เพราะเป็นส่วนผสมของลักษณะเลือดจากกรุ๊ปเอและกรุ๊ปบี ซึ่งนั่นหมายถึงอาหารที่ส่งผลดีต่อร่างกายของคนเลือดกรุ๊ปเอและอาหารที่ส่งผลดีต่อร่างกายคนเลือดกรุ๊ปบี ก็จะส่งผลดีต่อร่างกายคนเลือดกรุ๊ปเอบีด้วย

แหล่งโปรตีนที่เหมาะสมได้แก่ อาหารทะเล (ยกเว้นปลาเนื้อขาวแลแซลมอนรมควัน) เต้าหู้ เนื้อแดง บางชนิด เช่น เนื้อแกะ และกระต่าย แต่ควรรับประทานในปริมาณที่ไม่มากนักในแต่ครั้งครั้ง จึงจะย่อยได้ดี ที่สำคัญ คือ ควรรับประทานผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ซึ่งจะส่งผลดีต่อร่างกายในแง่ป้องกันมะเร็ง คนกรุ๊ปเอบีควรหลีกเลี่ยงอาหารสำเร็จรูปประเภทไส้กรอกและแฮมซึ่งมีสารประกอบไนเตรต์เช่นเดียวกับคนกรุ๊ปเลือดเอ

อาหารที่ควรรับประทาน

ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองและเต้าหู้ และอาหารจำพวกนมเนยไข่ แต่ทานได้ไม่มากนัก

อาหารทะเล เนื้อแกะ กวาง กระต่าย และไก่งวงในปริมาณน้อยๆ ในแต่ละครั้ง เพราะร่างกายผลิตน้ำย่อยไม่เพียงพอในการย่อยโปรตีนที่มากเกินไป

ผักสด มีประโยชน์มากๆ เพราะเป็นอาหารสำคัญที่สามารถป้องกันมะเร็งและโรคหัวใจ ซึ่งเกิดขึ้นได้ง่ายในคนกรุ๊ปเลือดเอบี

ผลไม้ที่มีไวตามินสูง เช่น ส้มโอ เชอร์รี่ สับปะรด จะช่วยต้านมะเร็งและเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับหัวใจ
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง

เนื้อวัวเนื้อหมูและปลาแซลมอนรมควัน เพราะย่อยยากและเป็นพิษต่อระบบทางเดินอาหาร

ถั่งแดง งา เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน ข้างโพด ชะลอการทำงานของอินซูลิน อาจทำให้น้ำตาลในเลือดลดลงอย่างเฉียบพลัน

อาหารประเภทดองและอาหารสำเร็จรูป เช่นไส้กรอดและแฮม เพราะอาจทำให้เป็นมะเร็งในกระเพาะอาหาร