วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ความเป็นมาของข้าวไรซ์เบอรี่และสรรพคุณ


ต้นกำเนิดของไรซ์เบอรี่

 ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ( Riceberry ) บางคนอาจจะยังไม่คุ้นหูสักเท่าไหร่ แต่ก็หลายคนเช่นกันที่ทราบว่า ข้าวไรซ์เบอร์รี่นี้มีคุณประโยชน์เอนกอนันต์มากสักแค่ไหน ข้าวไรซ์เบอร์รี่จัดเป็นข้าวสีม่วงที่สร้างความตื่นตัวในตลาดข้าวเพื่อสุขภาพอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้แล้ว เพราะข้าวพันธุ์มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง  จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือด โรคสมองเสื่อม และบำรุงร่างกายชะลอความแก่ เป็นต้น ด้วยเหตุนี้เองข้าวไรซ์เบอรี่ จึงได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ถ้าจะเล่ากันถึงกำเนิดของข้าวไรซ์เบอร์รี่นี้ ถือได้ว่า เป็นผลงานการปรับปรุงพันธุ์ของ รศ.ดร.อภิชาติ และทีมนักวิจัย ศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว ม. เกษตรศาสตร์  ข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นข้าวที่เกิดขึ้นมาใหม่ซึ่งได้มาจากการผสมข้ามพันธ์ระหว่างข้าวเจ้าหอมนิล ซึ่งถือว่าเป็นพันธุ์พ่อ และ ข้าวขาวดอกมะลิ 105  ที่เป็นพันธุ์แม่ โดยได้ลักษณะที่ดีและเด่นออกมาเป็นข้าวไรซ์เบอรี่ที่มีลักษณะเป็นข้าวเจ้าสีม่วงเข้ม ( เหมือนลูกเบอร์รี่ที่มีสีม่วงเข้มเมื่อสุก ) เมล็ดข้าวเรียวยาว ผิวมันวาว ถ้าเป็นข้าวกล้องจะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว และมีความนุ่มนวลและยืดหยุ่นเพราะลักษณะของเส้นใย ทำให้มีรสชาติอมหวานกล่อมกล่อมชวนรับประทานเป็นอย่างยิ่ง  ข้าวไรซ์เบอร์รี่นี้สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี อายุเก็บเกี่ยว 130 วัน ให้ผลผลิตปานกลาง สามารถต้านทานต่อโรคไหม้ แต่ไม่ต้านทานโรคหลาว จึงควรเปลี่ยนเมล็ดพันธ์ทุกรอบของการปลูก  การปลูกข้าวพันธุ์นี้จึงได้รับการการเอาใจใส่เป็นพิเศษ ซึ่งการทำนาแบบเกษตรอินทรีย์จะทำให้ข้าวไรซ์เบอร์รี่มีคุณค่าทางโภชนาการในปริมาณสูงตามลักษณะพันธุ์มากที่สุด
ลักษณะทั่วไปของข้าวไรซ์เบอร์รี่

ลักษณะทั่วไปของข้าวไรซ์เบอร์รี่

ข้าวไรซ์เบอร์รี่มีลักษณะเป็นข้าวเจ้า เมล็ดเรียวยาว ผิวมันวาว มีสีม่วงเข้ม แต่ถ้าเป็นข้าวกล้องจะมีกลิ่นหอมซึ่งเป็นเ­อกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีรสชาติหอมมัน เนื้อเหนียวนุ่ม เนื่องจากผ่านการขัดสีเพียงแค่บางส่วนเท่า­นั้น จึงคงคุณค่าทางอาหารไว้ได้ครบถ้วน นอกจากนี้ยังเป็นพันธุ์ข้าวที่ปลูกได้ตลอด­ทั้งปี สามารถต้านทานโรคใบไหม้ได้ แต่ไม่สามารถต้านทานโรคหลาวและศัตรูพืชได้­มากนัก ดังนั้นจึงต้องเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ใหม่ทุกค­รั้งในการปลูกแต่ละรอบ

สรรพคุณและประโยชน์ของข้าวไรซ์เบอร์รี่
ข้าวไรซ์เบอร์รี่นั้นอุดมไปด้วยคุณค่าทางอ­าหารสูงเป็นอย่างมาก โดยคุณประโยชน์ที่เด่นชัดคือ ในน้ำมันรำข้าวและรำข้าวนั้นมีคุณสมบัติใน­การต้านอนุมูลอิสระที่ดี อุดมไปด้วยโฟเลตในปริมาณสูง นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยสารอาหารอื่นๆที่มี­ประโยชน์ต่อร่างกายมากมายได้แก่ เบต้าแคโรทีน แกมมาโอไรซานอล วิตามินอี วิตามินบี 1 ลูทีน แทนนิน สังกะสี โอเมก้า 3 ธาตุเหล็ก โพลีฟีนอล และเส้นใยอาหาร เป็นต้น ซึ่งสารอาหารเหล่านี้นั้นมีส่วนช่วยในการบ­ำรุงร่างกาย บำรุงสายตา บำรุงระบบประสาท และลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง รวมถึงป้องกันโรคต่างๆมากมายได้แก่ โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือด โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคสมองเสื่อม และโรคโลหิตจาง เป็นต้น รวมทั้งมีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจน ช่วยชะลอความแก่ ลดระดับไขมัน และคอเลสเตอรอลได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นทั้งข้าวซึ่งเป็นอาหารหลัก­ของคนไทยและเป็นสมุนไพรไทยไปในตัวกันเลยที­เดียว
ข้าวไรซ์เบอร์รี่เหมาะกับใคร?
ข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นข้าวที่เหมาะสำหรับคน­ทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้ที่รักสุขภาพ ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ผู้สูงวัย ผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน และโรคโลหิตจาง รวมถึงสตรีมีครรภ์ เพราะอุดมไปด้วยโฟเลตในปริมาณสูง จึงช่วยป้องกันครรภ์เป็นพิษและช่วยให้ทารก­ในครรภ์มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่